5 วิธีดูแลน้องหมาน้องแมวให้สุขภาพดีในช่วงหน้าฝน
1. ฉีดวัคซีนป้องกันโรค
อากาศชื้นแบบนี้มักทำให้ป่วยง่ายจากเชื้อไวรัสต่างๆ และเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรค ไม่ว่าจะเป็นหวัดตามฤดูกาล เชื้อรา แบคทีเรียซึ่งหน้าฝนจะเพิ่มโอกาสการติดเชื้อโรคเหล่านี้สูงขึ้น ไม่ว่าจะกับคนหรือกับสุนัขของเรา ดังนั้นการป้องกันที่ดีที่สุดคือการพาน้องสุนัขของเราไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคประจำปีกันนะครับ
2. หมั่นทำความสะอาดตัว เช็ดขนและฝ่าเท้าให้แห้งอยู่เสมอ
ความเปียกชื้นจากฝน เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราเติบโตได้ง่ายเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดโรคทางผิวหนัง หากทิ้งไว้นานๆ ไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสมอาจเพิ่มโอกาสให้น้องหมาน้องแมวเสี่ยงต่อการเป็นผิวหนังอักเสบได้มากขึ้น
หากเห็นน้องหมาน้องแมวของเราไปเล่นน้ำ เลอะเทอะมาควรรีบพาไปอาบน้ำหรือเช็ดตัว เช็ดเท้า เป่าขนให้แห้งก่อนเข้าบ้านเสมอ อย่าปล่อยไว้นานนะครับ
3.ที่นอนต้องแห้งไม่อับชื้น
หากที่นอนหรือกรงของน้องหมาน้องแมวของเราอยู่ใกล้บริเวณฝนสาด หรือเป็นบริเวณที่อับลม มีความชื้นสูง ควรย้ายออกมาที่บริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และหมั่นเช็ดทำความสะอาดบ่อยๆ
4.อาหารและน้ำดื่มต้องสะอาดและสดใหม่เสมอ
อาหารเเละน้ำเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรตรวจเช็คอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนให้น้องๆ ทานไม่ว่าจะเป็นอาหารเม็ด ควรสดใหม่ไม่ชื้นหรือขึ้นราและไม่ค้างคืน ควรเก็บอาหารไว้ในที่แห้งปิดมิดชิดเพื่อให้อาหารไม่โดนความชื้น มดแมลงไม่เข้า รวมไปถึงอาหารสดที่เราปรุงให้น้องๆ ต้องเป็นของที่สดใหม่ สะอาดอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้น้องป่วย ท้องเสีย หรืออาเจียน
5. หมั่นสังเกตอาการผิดปกติ
น้องหมาน้องแมวไม่สามารถบอกเราได้ว่าตอนนี้เขากำลังรู้สึกป่วย ปวดหัว ตัวร้อน ไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว ดังนั้นเราควรหมั่นสังเกตอาการน้องบ่อยๆ โดยการสังเกตอาการเบื่องต้นของอาการป่วย เราสามารถสังเกตอาการได้ดังต่อไปนี้ครับ
– อาการซึมผิดปกติ ไม่เล่น ขยับตัวน้อยลง
– ขี้ตาเยอะขึ้น หรือตาแห้งผิดปกติ ตาแดง ตาหรี่
– หายใจผิดปกติ เช่น หายใจมีเสียงแปลกไป ใช้ท้องช่วยหายใจ(ดูพยายามหายใจมากขึ้นผิดปกติ) ไอ มีน้ำมูก
– ท้องเสีย ถ่ายเหลว ถ่ายมีเลือดปน ถ่ายมีพยาธิปน
– ขนร่วง ผิวแดงแฉะบางครั้งปนหนอง ผิวหนังแห้งตกสะเก็ต เกาหรือคันมากกว่าปกติ
หากสังเกตอาการ 1-2 วันแล้วไม่ดีขึ้นควรพาน้องมาพบแพทย์ทันที
ถ้าอาการหนักมากควรพามาพบแพทย์ทันที ไม่ควรรอดูอาการนะครับ